top of page
รูปภาพนักเขียนPailin Laser Metal Team

เครื่องเลเซอร์คัทแต่ละประเภทสามารถตัดอะไรได้บ้าง วัสดุแบบไหนเหมาะกับการตัดเลเซอร์


เครื่องตัดเลเซอร์

อย่างที่ทราบกันมาบ้างแล้วว่าเลเซอร์คัท คือ เทคโนโลยีการตัดวัสดุด้วยลำแสงเลเซอร์พลังงานสูง ที่มีความแม่นยำสูง รวดเร็ว และสามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โลหะ อโลหะ หรือแม้แต่วัสดุอินทรีย์ ด้วยความสามารถอันโดดเด่นนี้ เลเซอร์คัทจึงถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่งานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ไปจนถึงงาน DIY แต่รู้หรือไม่ว่า เครื่องเลเซอร์คัทมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทก็เหมาะกับการตัดวัสดุที่แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้เครื่องเลเซอร์คัทให้เหมาะสมกับวัสดุ เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน


บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก "เครื่องเลเซอร์คัทแต่ละประเภทสามารถตัดอะไรได้บ้าง" พร้อมไขข้อข้องใจ "วัสดุแบบไหนเหมาะกับการตัดเลเซอร์" เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องเลเซอร์คัทได้อย่างถูกต้อง และสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามได้เลย


เครื่องตัดเลเซอร์แต่ละประเภทเหมาะกับการตัดวัสดุอะไรบ้าง


แน่นอนว่าเครื่องตัดเลเซอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็เหมาะกับการตัดวัสดุที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของลำแสงเลเซอร์ ลองมาดูกันเลยว่า เครื่องตัดเลเซอร์แต่ละประเภท มีความโดดเด่นอย่างไรบ้าง


  1. เครื่องตัดเลเซอร์ CO2


หลักการทำงานคือใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการสร้างลำแสงเลเซอร์ โดยหลักการนี้จะเหมาะกับวัสดุที่เป็นอโลหะ เช่น อะคริลิค, ไม้, กระดาษ, ผ้า, หนัง, พลาสติก, โฟม, แก้ว  ไปจนถึงวัสดุอินทรีย์ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่, กระดาษแข็ง, เปลือกไม้


คนนิยมใช้กันเพราะตัวเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 มรีราคาถูก ใช้งานง่าย ค่าบำรุงรักษาต่ำ ตัดวัสดุอโลหะได้หลากหลายชนิด และให้คุณภาพงานที่ดีบนวัสดุบางชนิด เช่น อะคริลิค แต่ทั้งนี้เครื่องชนิดนี้จะไม่เหมาะกับการตัดโลหะ เพราะโลหะสะท้อนแสงเลเซอร์ ทำให้ประสิทธิภาพในการตัดต่ำ เพราะประสิทธิภาพลดลงเมื่อตัดวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง หรือสะท้อนแสงมาก


  1. เครื่องตัดเลเซอร์ Fiber


เป็นตัวที่จะใช้เส้นใยแก้วนำแสงเป็นตัวกลางในการสร้างลำแสงเลเซอร์ ซึ่งเหมาะกับวัสดุที่เป็นโลหะ เช่น เหล็กกล้าไร้สนิม, อะลูมิเนียม, ทองเหลือง, ทองแดง ไปจนถึงโลหะผสม เนื่องจากตัดโลหะได้ดี รวดเร็ว แม่นยำสูง ทั้งยังใช้พลังงานต่ำ ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ราคาสูงกว่า CO2 Laser เล็กน้อย ที่สำคัญคือไม่เหมาะกับการตัดวัสดุอโลหะอย่างยิ่ง 


  1. เครื่องตัดเลเซอร์ Nd:YAG


จะใช้ผลึก Nd:YAG เป็นตัวกลางในการสร้างลำแสงเลเซอร์ จะเหมาะกับวัสดุพวกโลหะ (ซึ่งก็คล้ายกับ Fiber Laser) แต่เหมาะกับการตัดโลหะหนา และงานแกะสลักมากกว่า รวมไปถึงอโลหะบางชนิดพวกพลาสติก, เซรามิก ข้อดีคือตัดโลหะหนาได้ และเหมาะกับงานละเอียด เช่น งานแกะสลัก แต่ก็มีราคาสูง ประสิทธิภาพในการตัดโลหะบางชนิด ต่ำกว่า Fiber Laser


ปลดล็อกศักยภาพงานสร้างสรรค์ด้วยเครื่องตัดเลเซอร์ CO2


เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 นับว่าเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการปลดล็อกศักยภาพงานสร้างสรรค์ของคุณ ด้วยความสามารถในการตัดและแกะสลักวัสดุที่ไม่ใช่โลหะได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานฝีมือ หรือแม้แต่งานออกแบบผลิตภัณฑ์ 

แล้วเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ปลดล็อกศักยภาพงานสร้างสรรค์อย่างไรบ้าง อันดับแรกเลยก็คือสามารถตัดวัสดุได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นลวดลายที่ละเอียดอ่อน ตัวอักษรขนาดเล็ก หรือรูปทรงที่ซับซ้อน ทั้งยังตัดวัสดุได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถตัดวัสดุได้หลากหลายชนิด เช่น อะคริลิค, ไม้, กระดาษ, ผ้า, หนัง ทำให้คุณมีอิสระในการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับงานสร้างสรรค์ของคุณ


ที่สำคัญซอฟต์แวร์ควบคุมเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ส่วนใหญ่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเรียนรู้และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และเลเซอร์ CO2 ช่วยลดข้อจำกัดในการสร้างสรรค์ผลงาน คุณสามารถออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานได้ตามจินตนาการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยากลำบากในการตัดวัสดุ


ด้วยความสามารถที่หลากหลาย เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณปลดล็อกศักยภาพงานสร้างสรรค์ และสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร


วัสดุที่เหมาะกับเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 


เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 นับว่าเป็นที่นิยมมาก เพราะใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะกับวัสดุอโลหะ แต่ก็ใช่ว่าวัสดุอโลหะทุกชนิดจะเหมาะสมไปหมดนะครับ เรามาดูคุณสมบัติของวัสดุที่เหมาะกับการตัดด้วยเลเซอร์ CO2 กัน


  1. คุณสมบัติการดูดซับแสง


วัสดุที่มีสีเข้ม มักดูดซับแสงเลเซอร์ได้ดีกว่าวัสดุสีอ่อน ทำให้ตัดได้ง่าย รวดเร็ว และได้ขอบที่เรียบเนียน เช่นพวกอะคริลิคสีดำ, ไม้เนื้อแข็งสีเข้ม, ผ้าสีเข้ม


  1. จุดหลอมเหลว


วัสดุที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ จะตัดด้วยเลเซอร์ CO2 ได้ง่ายกว่า เพราะใช้พลังงานน้อยกว่าในการหลอมละลายวัสดุเช่น อะคริลิค, พลาสติกบางชนิด, ไม้เนื้ออ่อน


  1. ความหนาแน่น


โดยทั่วไปแล้ว เลเซอร์ CO2 เหมาะกับการตัดวัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำถึงปานกลาง และวัสดุที่หนาแน่นมาก อาจต้องใช้พลังงานสูง และเวลาในการตัดนานขึ้น เช่นอะคริลิค, ไม้, กระดาษ, ผ้า


  1. ความไวไฟ


ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อตัดวัสดุที่ไวไฟ เช่น ผ้าบางชนิด, โฟม, กระดาษ และควรตั้งค่าความเร็วและกำลังของเลเซอร์ให้เหมาะสม และมีระบบระบายอากาศที่ดี


  1. การปล่อยควันพิษ


วัสดุบางชนิด เช่น PVC (พีวีซี) จะปล่อยควันพิษ เมื่อถูกตัดด้วยเลเซอร์ และควรหลีกเลี่ยงการตัดวัสดุเหล่านี้ หรือใช้ระบบดูดควันที่มีประสิทธิภาพ


เครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์


สำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ (Fiber Laser Cutting Machine) เราก็เกริ่นไปบ้างแล้วข้างต้น ซึ่งก็เป็นเทคโนโลยีการตัดวัสดุที่ทันสมัย ที่ใช้เส้นใยแก้วนำแสงเป็นตัวกลางในการสร้างลำแสงเลเซอร์ โดดเด่นด้วยความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพสูง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการตัดโลหะ


โดยไดโอดเลเซอร์จะปล่อยลำแสงเลเซอร์ ผ่านเข้าไปในเส้นใยแก้วนำแสง และตัวเส้นใยแก้วนำแสงจะขยายและส่งผ่านลำแสงเลเซอร์ไปยังหัวตัด จากนั้นหัวตัดจะโฟกัสลำแสงเลเซอร์ไปยังจุดเล็กๆ บนวัสดุ พลังงานความร้อนจากลำแสงเลเซอร์จะหลอมละลาย หรือเผาไหม้วัสดุ ทำให้เกิดการตัดนั้นเอง 

ส่วนข้อดีของเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ ใคร ๆ ก็บอกว่าตัดวัสดุได้รวดเร็วกว่าเลเซอร์แบบอื่น ๆ ให้ความแม่นยำสูง ตัดได้คม เรียบเนียน และยังสร้างชิ้นงานคุณภาพสูง มีรอยตัดที่สะอาด ที่สำคัญคือใช้พลังงานน้อยกว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้เส้นใยแก้วนำแสงมีความทนทาน ใช้งานได้นาน ทำให้คุณไม่ต้องบำรุงรักษามาก


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างของเครื่องเลเซอร์คัทแต่ละประเภท และเลือกใช้วัสดุได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด และหากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดเลเซอร์ ที่พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และประสบการณ์ยาวนาน บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล จำกัด (PLM) คือคำตอบที่คุณวางใจได้


PLM - "ความแม่นยำที่เหนือกว่า เพื่อผลงานที่สมบูรณ์แบบ"


ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page