เจาะลึกเรื่องตัดเลเซอร์: เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ทำงานอย่างไร?

เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิต ด้วยความสามารถในการตัดวัสดุหลากหลายประเภทอย่างแม่นยำและรวดเร็ว วันนี้ PLM จะพาคุณไปเจาะลึกถึงการทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ว่ามีหลักการทำงานอย่างไร รวมถึงวิธีการใช้งานและข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 คืออะไร?

เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 เป็นระบบตัดที่ใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในการตัดวัสดุ เครื่องนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการตัดที่มีความแม่นยำสูงและมีความสามารถในการตัดวัสดุหลากหลายประเภท รวมถึงอะคริลิก ไม้ ผ้า หนัง และพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังสามารถตัดโลหะบางประเภทได้อีกด้วย

วัสดุที่สามารถตัดได้

เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 สามารถตัดวัสดุที่ไม่ใช่โลหะได้หลากหลาย เช่น:

• อะคริลิก: สำหรับการสร้างชิ้นงานที่มีความละเอียดสูง

• ไม้: สำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นส่วนไม้ที่ต้องการความแม่นยำ

• ผ้าและหนัง: ใช้ในการผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับแฟชั่นและเครื่องหนัง

• พลาสติก: สำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง

การตัดโลหะ

แม้ว่าเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 จะไม่เหมาะสำหรับการตัดโลหะที่มีความหนามาก แต่ก็สามารถตัดโลหะบางประเภทได้ เช่น:

• เหล็ก

• สแตนเลส

• อลูมิเนียม

ซึ่งการตัดโลหะที่มีความหนามากกว่านี้ อาจจะต้องใช้เครื่องตัดเลเซอร์ประเภทอื่น เช่น เครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์

หลักการทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ CO2

การทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 มีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในกระบวนการต่างๆ ต่อไปนี้คือขั้นตอนหลักในการทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ CO2:

1. แหล่งกำเนิดของแสงเลเซอร์

ลำแสงเลเซอร์ถูกสร้างขึ้นในเครื่องสะท้อนเสียงเลเซอร์ (Laser Resonator) ซึ่งมีส่วนผสมของก๊าซที่ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ไนโตรเจน (N2), และฮีเลียม (He) การปล่อยไฟฟ้าแรงสูงไปยังส่วนผสมของก๊าซนี้จะกระตุ้นโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์และทำให้เกิดลำแสงเลเซอร์

2. การขยายด้วยเลเซอร์

โมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกกระตุ้นจะปล่อยโฟตอนเมื่อพวกมันกลับสู่สถานะพลังงานที่ต่ำกว่า โฟตอนเหล่านี้จะสะท้อนไปมาระหว่างกระจกที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งของเลเซอร์เรโซเนเตอร์ ทำให้ลำแสงเลเซอร์เพิ่มจำนวนและขยายใหญ่ขึ้น

3. การส่งแสง

ลำแสงเลเซอร์ที่ถูกขยายแล้วจะถูกนำทางและโฟกัสไปยังจุดตัดโดยชุดกระจกและเลนส์ ระบบออปติคัลนี้ทำให้ลำแสงเลเซอร์คงที่และโฟกัสไปยังจุดเล็กๆ ซึ่งมีความหนาแน่นของพลังงานสูงที่จุดตัด

4. การปฏิสัมพันธ์ของวัสดุ

เมื่อเลเซอร์ถูกนำไปที่วัสดุที่ต้องการตัด ลำแสงเลเซอร์จะให้ความร้อนจนถึงอุณหภูมิที่สามารถหลอมละลายหรือระเหยวัสดุได้ กระบวนการนี้จะทำให้เกิดรอยตัดที่มีความแม่นยำและสะอาด

5. การกำจัดวัสดุ

เมื่อวัสดุดูดซับพลังงานเลเซอร์ วัสดุจะเกิดการระเหิดหรือการกลายเป็นไอ ก๊าซแรงดันสูง เช่น ออกซิเจนหรือไนโตรเจน จะถูกใช้ในการกำจัดวัสดุที่หลอมเหลวออกจากพื้นที่ตัดเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ตัดสะอาด

6. การควบคุม CNC

การเคลื่อนไหวของเครื่องตัดเลเซอร์ถูกควบคุมโดยระบบควบคุมเชิงตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์ (CNC) ซึ่งควบคุมการเคลื่อนที่ของหัวเลเซอร์และการวางตำแหน่งของวัสดุอย่างแม่นยำ พารามิเตอร์การตัด เช่น กำลังเลเซอร์ ความเร็วตัด และแรงดันแก๊สเสริม จะถูกควบคุมโดยระบบ CNC เพื่อให้ได้รูปแบบการตัดที่ต้องการ

ข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ CO2

การใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามแนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นี่คือข้อควรระวังบางประการ:

• การใช้ PPE: สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น แว่นตานิรภัยและถุงมือ

• ระบายอากาศ: รักษาพื้นที่ทำงานให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อป้องกันการสะสมของควัน

• การตรวจสอบเครื่อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้และอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี

• การทดสอบตัด: ก่อนตัดวัสดุจริง ควรทำการทดสอบตัดวัสดุในพื้นที่เล็กๆ เพื่อปรับแต่งการตั้งค่า

ความหลากหลายในการใช้งานของเครื่องตัดเลเซอร์ CO2

เครื่องตัดเลเซอร์ CO2 เป็นเครื่องมือที่มีความสามารถหลากหลายในการตัดวัสดุที่หลากหลายด้วยความแม่นยำสูง ในการใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ต้องมีความรู้และความเข้าใจในกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การสร้างลำแสงเลเซอร์จนถึงการควบคุมการตัดด้วยระบบ CNC การปฏิบัติตามข้อควรระวังและการตั้งค่าที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

การตัดเลเซอร์ CO2 ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ด้วยความสามารถในการตัดวัสดุที่หลากหลายและความแม่นยำสูง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการการตัดที่มีคุณภาพสูงและต้นทุนต่ำ

บริษัท ไพลิน เลเซอร์ เมทเทิล (PLM) เป็นผู้นำในการแปรรูปโลหะครบวงจรสำหรับทุกความต้องการของคุณ ตั้งแต่การออกแบบแนว ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด บริการของเราครอบคลุมทุกขั้นตอนของการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น และลูกค้าได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยจากผู้นำอุตสาหกรรมในเยอรมนีและญี่ปุ่น PLM จึงสามารถส่งมอบชิ้นงานที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด เรามีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความสามารถในการผลิตระดับพรีเมียม และแนวทางการทำงานที่เน้นลูกค้าเป็นหลัก โดยได้รับความไว้วางใจจากผู้นำอุตสาหกรรมทั่วทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และยุโรป